วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2560

พฤติกรรมและความพึงพอใจในการใช้สื่อโซเชียลมีเดีย

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์  เพื่อศึกษาพฤติกรรมการใช้สื่อโซเชียลมีเดียของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายในเขตเทศบาลนครอุดรธานี   เพื่อศึกษาความพึงพอใจในการใช้สื่อโซเชียลมีเดียของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายในเขตเทศบาลนครอุดรธานี  เพื่อศึกษาการใช้ประโยชน์จากสื่อโซเชียลมีเดียของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายในเขตเทศบาลนครอุดรธานี   โดยการสำรวจประชากรกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด  400 คน เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูลในการทำวิจัยคือ แบบสอบถาม  และนำข้อมูล


มาวิเคราะห์ทางสถิติโดยใช้สถิติในการวัดข้อมูลคือ ค่าร้อยละและค่าเฉลี่ย ซึ่งประมวลผลโดยใช้คอมพิวเตอร์โปรแกรม  SPSS
ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะประชากรของนักเรียนในเขตเทศบาลนครอุดรธานี ในส่วนของข้อมูลทั่วไปของกลุ่มตัวอย่าง พบว่า   กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงมีอายุ 17  ปี อาศัยอยู่ที่บ้านตนเองมีบริการอินเทอร์เน็ต  พักกับพ่อแม่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน  3,500-4,000  บาท
ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้สื่อโซเชียลมีเดียของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายในเขตเทศบาลนครอุดรธานี ในส่วนของข้อมูลทั่วไปของกลุ่มตัวอย่าง  พบว่า  กลุ่มตัวอย่างมีประสบการณ์ในการใช้สื่อโซเซียลมีเดีย 4-5 ปี  มีการใช้สื่อโซเซียลมีเดีย 3-5   ชั่วโมง  ในเวลาที่ตนเองสะดวก ส่วนใหญ่อยู่ตามลำพังขณะใช้บริการสื่อโซเซียลมีเดีย  ส่วนใหญ่ใช้บริการโซเซียลมีเดียชนิด Facebook และมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงหลังจากใช้สื่อโซเซียลมีเดียคือมีเพื่อนแปลกหน้าเพิ่มมาก ส่วนใหญ่มีลักษณะการใช้สนทนาเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ส่วนใหญ่ไม่เคยซื้อสินค้าผ่านอินเทอร์เน็ต
ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากสื่อโซเซียลมีเดียของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายในเขตเทศบาลนครอุดรธานี  พบว่า ส่วนใหญ่กลุ่มตัวอย่างใช้สื่อโซเซียลมีเดียเพื่อความบันเทิง ใช้สื่อโซเซียลมีเดียเพื่อศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งที่สนใจ ใช้สื่อโซเซียลมีเดียเพื่อความบันเทิงและความสนุกสนานเพื่อดูหนังฟังเพลง  ใช้สื่อโซเซียลมีเดียในการติดต่อสื่อสาร และส่วนใหญ่การใช้สื่อโซเชียลมีเดียส่งผลต่อตัวท่านในด้านลบคือทำให้สายตาเสีย
ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมและความพึงพอใจในการใช้สื่อโซเซียลมีเดียของนักเรียนในเขตเทศบาลนครอุดรธานี    พบว่า  กลุ่มตัวอย่างพึงพอใจในการใช้สื่อโซเซียลมีเดียในการสืบค้นข้อมูลด้านการศึกษามากที่สุดโดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.49  และมีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.697 อยู่ในเกณฑ์มาก รองลงมาคือกลุ่มตัวอย่างพึงพอใจในการใช้สื่อโซเซียลมีเดียเพื่อความสะดวกสบายในการดูหนังฟังเพลง โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.47  และมีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.641 อยู่ในเกณฑ์มาก และมีความพึงพอใจในการใช้สื่อโซเซียลมีเดียในการสืบค้นข้อมูลด้านการค้าขายต่ำที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.56  และมีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.929  อยู่ในเกณฑ์มาก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น