บทนำ
1.1
ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา
ปัจจุบันคนทั่วโลกนิยมการออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานกันมากขึ้นเนื่องจากส่งผลดีต่อร่างกายทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงแถมยังช่วยลดภาวะโลกร้อนและยังเป็นการประหยัดพลังงานได้อีกทางหนึ่ง
แต่ก่อนคนไทยไม่ค่อยนิยมการปั่นจักรยานกันสักเท่าไหร่โดยเฉพาะในชุมชนที่มีการพัฒนาแล้วอาจเป็นเพราะกลัวการถูกมองว่าเฉยกลัวโดนดูถูก
และยังกลัวชนผู้คนเป็นอันตรายได้ ยกตัวอย่างเช่นในชุมชนเมือง
เพราะว่าเป็นสถานที่ที่มีจำนวนคนที่เยอะเดินสนกันไปมาในที่แออัด
แต่ก็มีการปั่นจักรยานบ้างในพื้นที่สวนสาธารณะ
อาจจะเป็นการเช่าจักรยานจากสถานประกอบการการให้เช่าจักรยานหรือบางทีก็เป็นจักรยานของตนเองที่นำไปปั่นที่สวนสาธารณะ
แต่ในปัจจุบันนี้การปั่นจักรยานไม่ได้ถูกมองว่าเฉยอีกต่อไปเพราะในหลายประเทศทั่วโลกหันมาใช้จักรยานเป็นจำนวนมากและประเทศไทยก็ได้รับอิทธิพลนี้เช่นกันเพราะกระแสของการรักสุขภาพเป็นที่นิยมในตอนนี้หลายคนเลยเลือกวิธีนี้ทั้งในส่วนของภาครัฐยังให้การสนับสนุนจัดทำโครงการต่างๆขึ้นทั้งในต่างประเทศ
โครงการรณรงค์ในประเทศไทย และในจังหวัดอุดรธานี
โครงการจักรยานสาธารณะจากไนค์กี้ (Nike)ของขวัญแด่ชาวโปรแลน PortlandNike ก็ทุ่มเงินกว่า
10 ล้านดอลล่าสหรัฐ
เพื่อทำระบบจักรยานสาธารณะให้กับชาวเมืองโปรแลน(Portland)รัฐออริกอน(Oregon)ประเทศสหรัฐอเมริกา
ทำจักรยานสาธารณะให้กับชาวเมือง โดยจะให้งบสนับสนุนถึง 5 ปีด้วยกัน จักรยานสีส้มแจ้ดจักรยาน Bike
Town นี้จะเป็นจักรยานแบบสมาร์ทไบร์(Smart Bike)ที่ใช้ระบบ ซึ่งมันสามารถล็อคตัวเองได้ ผู้ใช้สามารถจอดไว้ที่ไหนก็ได้
และคนที่มาใช้ต่อก็สามารถปลดล็อคแล้วนำไปใช้ต่อได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีสถานีจอด
ซึ่งเป็นระบบที่เหมาะสำหรับเมืองที่มีระบบให้บริการจักรยานสาธารณะขนาดใหญ่
และกำลังเป็นที่นิยมใช้ในหลายๆ เมืองจะเป็นระบบสาธารณะที่จะสร้างสีสันให้กับเมืองมากขึ้น
โครงการนี้มีกำหนดจะเริ่มต้นในเดือน กรกฎาคมนี้ โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะมีทั้งหมด 1,000 คัน
ความพิเศษตรงที่
ไนค์กี้(Nike )ไม่ได้ทำเพื่อหวังผลในแง่ธุรกิจ
แต่เป็นการสร้างประโยชน์เพื่อชุมชนมากกว่า เพราะสำนักงานใหญ่ของ Nike ตั้งอยู่ที่เมืองพอร์ตแลนด์มาเป็นเวลา 40 ปีแล้ว
ทางบริษัทเลยคิดอยากจะทำอะไรเพื่อสังคมบ้าง โดย Nike
ร่วมมือกับกรมขนส่งของเมืองพอร์ตแลนด์ในการผลิตจักรยานที่มีชื่อว่าไบร์ทาว
(BikeTown)ด้วยเป้าหมายที่อยากจะสร้างชุมชุมแห่งการแบ่งปันและความเป็นเมืองจักรยานให้เกิดขึ้นอย่างเต็มที่
โครงการคืนความสุขให้ประชาชนด้วยเส้นทางจักรยานทั่วประเทศไทย
ที่ทางรัฐบาลได้จัดทำขึ้นโดย
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
เร่งสั่งการให้พัฒนาเส้นทางส่งเสริมการใช้จักรยานให้เหมือนกับเมืองใหญ่ที่พัฒนาแล้วของประเทศต่าง
ๆ เพื่อคืนอีกหนึ่งความสุขให้คนไทยกระทรวงคมนาคมในฐานะเจ้าภาพหลักอย่างเป็นทางการอ้าแขนรับผิดชอบดูแลการจัดทำเส้นทางจักรยานได้รวบรวมข้อมูลเส้นทางจักรยานทั่วประเทศพบว่ามีทั้งสิ้น
774 กิโลเมตร กระจายออกไปอยู่ภายใต้การดูแลของ 3 หน่วยงาน คือ กระทรวงคมนาคม 316
กม. กรุงเทพมหานคร (กทม.) 323 กม. และหน่วยงานส่วนภูมิภาค 134 กม.
ถือว่ายังไม่มากแต่หลังจากรัฐบาลมีนโยบายผลักดันให้ใช้จักรยานอย่างจริงจังก็มีแผนเพิ่มเส้นทางเป็น
3,016 กม. ภายใน 2 ปีนี้ หรือมากกว่าเดิม 4
เท่าตัวพร้อมทั้งเร่งแนะนำทางจักรยานที่สามารถใช้งานได้แล้วทั่วประเทศให้นักปั่นจักรยาน
ประชาชนทั่วไปได้รับรู้ รับทราบ ออกไปปั่นจักรยานกัน
โดยขณะนี้ในส่วนของกระทรวงคมนาคมมีเส้นทางที่น่าสนใจพร้อมให้ออกไปปั่นกันแล้วหลายเส้นทาง
ที่ฮิตติดลมบนอันดับ 1
ต้องยกให้เส้นทางจักรยานในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน
5 สนามบินที่มีทางจักรยานดีที่สุดในโลก
ด้วยความร่วมมือระหว่างบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) กับธนาคารไทยพาณิชย์
ทุ่มงบประมาณกว่า 329 ล้านบาท ก่อสร้าง
และซ่อมบำรุงเส้นทางจักรยานสำหรับออกกำลังกายทั้งเส้นทางสายหลัก สายรองความยาว
24.5 กม. ภายในประกอบด้วยทางลู่ปั่นจักรยานมาตรฐานระดับโลก จุดพัก ป้ายสัญญาณ
ห้องน้ำร้านอาหาร และเครื่องดื่ม ตลอดจนระบบรักษาความปลอดภัยเช่น ระบบกล้องวงจรปิด
ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง สำหรับให้บริการเวลากลางคืนรวมถึงใช้เทคโนโลยี
อาร์เอฟไอดีลงทะเบียนผู้ปั่นจักรยานเพื่อตรวจสอบการผ่านเข้า-ออกด้วยต่อมาคือ
เส้นทางจักรยานการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยย่านห้วยขวาง กรุงเทพฯ
เป็นอีกทางเลือกสำหรับคนเมืองโดยเฉพาะพนักงานออฟฟิศที่เหน็ดเหนื่อยจากการทำงานได้ไปออกกำลังกายพักผ่อนในบรรยากาศผ่อนคลายระยะทาง
3.7 กม. ซึ่งปัจจุบันความนิยมก็ไต่ระดับสูงขึ้นเรื่อย ๆ สถิติล่าสุดมีนักปั่นมาใช้บริการมากกว่าวันละ
1,000 คน
นอกจากนี้ยังมี
เส้นทางจักรยานกรมการขนส่งทางบก เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ระยะทาง 2 กม.
เน้นอำนวยความสะดวกให้ข้าราชการและประชาชน ผู้มาติดต่อราชการและ
เส้นทางจักรยานโครงการทางจักรยานในเขตทางพิเศษศรีรัช ถนนงามวงศ์วาน-ถนนแจ้งวัฒนะ
ระยะทาง 4.7 กม.
ซึ่งเป็นเส้นทางเพื่อแก้ปัญหาจราจรรถติดเปิดให้บริการแล้วตั้งแต่เดือน มี.ค. 58
ที่ผ่านมา
ไปดูเส้นทางจักรยานในต่างจังหวัดกันบ้างไฮไลต์อันดับ
1 คือเส้นทางจักรยานถนนเฉลิมบูรพาชลทิต ถนนสายเลียบทะเลระยอง จันทบุรี ตราด
ซึ่งถือเป็นเส้นทางการท่องเที่ยวกลุ่มภาคตะวันออกระยะทาง 88.4 กม.
จัดเป็นถนนสายโรแมนติกที่มีความสวยงามที่สุดบริเวณเลียบชายฝั่งทะเลตะวันออกผ่านหาดคุ้งวิมาน
อ่าวคุ้งกระเบน หาดแหลมสิงห์ ที่สำคัญเส้นทางจักรยานนี้ได้ถูกบรรจุให้เป็น 1 ใน 10
สถานที่ท่องเที่ยวในฝัน “ดรีม เดสทิเนชั่น” ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยอีกด้วย
ส่วนเส้นทางอื่น ๆ ที่น่าสนใจ อาทิ
เส้นทางจักรยานถนนสายเลี่ยงเมือง บ.ทุ่งเสี้ยว-บ.สันป่าตอง-บ.หางดง จ.เชียงใหม่
ระยะทาง 13 กม. เส้นทางจักรยานถนนเลียบชายฝั่งทะเลด้านตะวันออก จ.ระยองจ.จันทบุรี
จ.ตราด ระยะทางรวม 104 กม. เส้นทางจักรยานถนนเลียบชายฝั่งทะเลด้านตะวันตกของอ่าวไทย
จ.เพชรบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์จ.ชุมพร จ.ระนอง ระยะทางรวม 114 กม.
เส้นทางจักรยานถนน นฐ.3054 อ.ลาดบัวหลวง อ.สองพี่น้อง อ.บางเลน จ.นครปฐม ระยะทาง
14.7 กม. และเส้นทางจักรยานถนนชลประทาน (เลียบคลองพระยาบันลือฝั่งใต้) อ.สองพี่น้อง
จ.นครปฐม ระยะทาง 9.5 กม
โครงการจักยานสาธารณะปั่นปั่น นายอิทธิพล
ตรีวัฒน์สุวรรณ นายกเทศมนตรีนครอุดรธานี กล่าวว่า
เทศบาลนครอุดรธานีจัดโครงการจักรยานสาธารณะ Udon Bike Share
"ปัน กัน ปั่น" รักษาสุขภาพ ลดมลพิษ
เป็นการดำเนินชีวิตแบบใหม่ เพื่อสุขภาพที่ดี ได้ออกกำลังกาย
และยังช่วยลดมลพิษทางอากาศได้อีกทางหนึ่ง
กับการบริการจักรยานสาธารณะระบบอัตโนมัติใจกลางเมืองอุดรธานี
โดยสามารถปั่นจักรยานจากสถานีหนึ่งไปคืนสถานีไหนก็ได้
ไม่จำเป็นต้องกลับมาคืนสถานีเดิม ทำให้เกิดความสะดวกสบาย
มีความคล่องตัวมากขึ้นในการเดินทาง มีสถานีทั้งหมด 10 จุดรอบเมืองอุดรธานี
ประกอบด้วย สถานีหนองประจักษ์ด้านถนนเทศบาล2 จุด
ด้านถนนเพาะนิยม 1 จุด ศาลหลักเมือง โรงพยาบาลอุดรธานี
โรงเรียนอุดรพิทยานุกูลเซ็นทรัลพลาซ่า
ยูดีทาวน์
สวนหนองบัวและสนามกีฬาเทศบาลนครอุดรธานี
การบริการจักรยานสาธารณะระบบอัตโนมัติใจกลางเมืองอุดรธานี
โดยสามารถปั่นจักรยานจากสถานีหนึ่งไปคืนสถานีไหนก็ได้
ไม่จำเป็นต้องกลับมาคืนสถานีเดิม ทำให้เกิดความสะดวกสบาย
มีความคล่องตัวมากขึ้นในการเดินทาง สำหรับโครงการจักรยานสาธารณะระบบอัตโนมัติ
มีค่าสมัครสมาชิกโครงการจักรยาน 320 บาท/ปี ประกอบด้วย 1.ค่าธรรมเนียมการออกบัตร 120
บาท 2.ค่าสมาชิก รายปี 100 บาท 3.มูลค่าบัตรที่เติมไว้ล่วงหน้าสำหรับใช้บริการ 100
บาท สมาชิกจะได้รับความคุ้มครองประกันอุบัติเหตุ
เนื่องจากการใช้จักรยานของโครงการ ในวงเงิน 50,000 บาท
และค่ารักษาพยาบาลไม่เกิน 5,000 บาท/ครั้ง เพียงนำบัตรประชาชน หรือหนังสือเดินทาง
พร้อมชำระค่าธรรมเนียมและค่าบริการล่วงหน้าตามที่โครงการกำหนด เพียงเท่านี้
ก็จะได้รับบัตรจักรยานแล้วนำมายืมจักรยานได้เลยทันที
โดยผู้สมัครต้องมีอายุไม่น้อยกว่า 16 ปีบริบูรณ์
ในวันที่สมัครใช้บริการ ผู้ที่จะใช้บริการดังกล่าวต้องสมัครสมาชิกโครงการจักรยานสาธารณะเทศบาลนครอุดรธานี
ณ จุดรับสมัคร ณ สถานีหนองประจักษ์ด้านถนนเทศบาล หลังจวนผู้ว่า วันจันทร์-วันศุกร์
ตั้งแต่เวลา 09.00 น.-19.00 น.
และวันเสาร์-วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 17.00 น.-19.00 น
จากประเด็นดังกล่าวผู้วิจัยมีความสนใจในด้านการศึกษาพฤติกรรมและความพึงพอใจของนักปั่นจักรยานในจังหวัดอุดรธานีเพื่อศึกษาปัญหา
อุปสรรค ความต้องการ และพฤติกรรมของนักปั่นจักรยาน
โดยมุ่งหวังว่าการศึกษาวิจัยในครั้งนี้จะทำให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาและช่วยให้ผู้ที่สนใจที่จะเริ่มปั่นจักรยานนำมาเป็นข้อมูลเพื่อให้ใช้ในการตัดสินใจได้ง่ายขึ้น